ที่ดินแต่ละพื้นที่มีประโยชน์ใช้สอยได้ไม่เหมือนกัน แต่ก็นับว่าเป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาได้หลายอย่าง
เราสามารถนำที่ดินเปล่ามาสร้างมูลค่า ยิ่งที่ดินทำประโยชน์ได้มาก ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

1. ปลูกพืชเศรษฐกิจ
หากมีที่ดินเปล่าแปลงใหญ่จะค่อนข้างเหมาะกับการทำไร่ ทำสวน โดยการทำไร่จะมีข้อดีคือไม่จำเป็นต้องดูแลเยอะ และสามารถทำได้ทีละมากๆ ส่วนข้อดีของการทำสวนคือได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่ก็ต้องแลกกับการดูแลที่มากกว่าเช่นกัน พืชเศรษฐกิจเหล่านี้นับว่าเป็นทรัพย์สินชั้นดี ทั้งสร้างรายได้ให้ตลอดเวลาและยังเพิ่มมูลค่าให้
- พืชผักสวนครัว: ปลูกผักสวนครัวเพื่อจำหน่าย เช่น ผักกาดหอม ผักคะน้า ผักบุ้งจีน ซึ่งเป็นพืชที่โตเร็ว ให้ผลผลิตเร็ว และมีความต้องการในตลาดสูง
- ไม้ผล: ปลูกไม้ผล เช่น ทุเรียน มังคุด ลองกอง ซึ่งเป็นพืชที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการลงทุนค่อนข้างนาน
- พืชสมุนไพร: ปลูกพืชสมุนไพรเพื่อจำหน่ายทั้งในรูปแบบสดและแปรรูป เช่น ขมิ้นชัน กระชาย ตะไคร้ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
- พืชคลุมดิน: ปลูกพืชคลุมดินเพื่อปรับปรุงคุณภาพดิน เช่น ถั่วเขียว ถั่วลิสง หลังจากเก็บเกี่ยวแล้วสามารถนำไปขายหรือใช้เป็นอาหารสัตว์ได้
- พืชปุ๋ยสด: ปลูกพืชปุ๋ยสดเพื่อเพิ่มอินทรีย์วัตถุในดิน เช่น ปอเทือง โสน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมี
2. ปล่อยเช่าทำการเกษตร
ที่ดินการเกษตรสามารถหาปล่อยเช่าได้ง่าย เนื่องจากมีความต้องการทำไร่สูง และถึงแม่ที่ดินจะอยู่ห่างไกล ไม่มีถนนผ่าน เดินทางไม่สะดวก ก็ไม่มีปัญหากับผู้เช่า นอกจากนี้เจ้าของที่ดินก็ไม่ต้องดูแลที่ดินมากนัก
- เช่าให้เกษตรกรรายย่อย: ปล่อยเช่าที่ดินให้เกษตรกรรายย่อยทำการเกษตร โดยคุณจะได้รับค่าเช่าเป็นรายเดือนหรือรายปี
- เช่าให้บริษัทเกษตร: ปล่อยเช่าที่ดินให้บริษัทเกษตรขนาดใหญ่ทำการเกษตร เช่น ปลูกอ้อย ปาล์มน้ำมัน ซึ่งจะได้รับค่าเช่าที่สูงกว่าการปล่อยเช่าให้เกษตรกรรายย่อย
3. ปล่อยเช่าหรือสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก ในที่ดินเชื่อมระหว่างเมือง
สำหรับที่ดินที่ติดถนน แต่ไม่มีชุมชนอยู่อาศัยใกล้เคียง สามารถปล่อยเช่าหรือสร้างสถานที่อำนวยความสะดวกแก่คนที่ใช้รถยนต์เป็นหลักได้ โดยสถานที่เหล่านี้จะมีข้อได้เปรียบในเรื่องขนาดที่ใหญ่ และใกล้เมือง
- โรงงาน: หากมีพื้นที่ขนาดใหญ่และเหมาะสม สามารถสร้างโรงงานขนาดเล็กได้
- ปั๊มน้ำมัน/ปั๊มแก๊ส: เหมาะกับที่ดินตั้งอยู่ในทำเลที่มีรถผ่านไปมาหนาแน่น
- รีสอร์ท: เหมาะกับที่ดินตั้งอยู่ในทำเลที่สวยงาม เน้นธรรมชาติ และเงียบสงบ
- ร้านค้าขนาดใหญ่: เหมาะสำหรับร้านค้าที่ต้องใช้พื้นที่ที่ต้องการเก็บสินค้าขนาดใหญ่และจำนวนมาก
4. ปรับพื้นที่เป็นตลาด
ที่ดินเปล่าที่เหมาะสำหรับการทำตลาด คือพื้นที่ที่อยู่ในแหล่งชุมชน มีผู้อยู่อาศัยมากพอสมควร ใช้เงินลงทุนน้อยแต่ผลตอบแทนค่อนข้างดี
- ตลาดนัด: จัดตลาดนัดในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อให้ผู้คนมาจับจ่ายใช้สอย
- ตลาดกลางคืน: จัดตลาดกลางคืนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
- ตลาดเกษตรกร: จัดตลาดเกษตรกรเพื่อจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร
5. อื่นๆ
- ปล่อยเช่าที่ดินเปล่า: สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการลงทุนอะไรเพิ่มเติม สามารถปล่อยเช่าที่ดินเปล่าได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งว่าเหมาะกับผู้เช่าแบบไหนด้วย
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ
- ทำเลที่ตั้ง: ที่ดินตั้งอยู่ในทำเลที่เข้าถึงง่ายหรือไม่ มีสาธารณูปโภคครบครันหรือไม่
- ขนาดของที่ดิน: ที่ดินมีขนาดใหญ่พอที่จะทำกิจกรรมที่ต้องการหรือไม่
- กฎหมายและข้อบังคับ: ตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่นั้นๆ
- งบประมาณ: ประเมินงบประมาณที่ต้องใช้ในการลงทุน
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ศึกษาข้อมูล: ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตลาดและความต้องการของผู้บริโภคในพื้นที่นั้นๆ
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรหรือที่ปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์
- วางแผนอย่างรอบคอบ: วางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบและมีเป้าหมายที่ชัดเจน
การเลือกวิธีสร้างรายได้จากที่ดินเปล่าขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ขนาดของที่ดิน ทำเลที่ตั้ง งบประมาณ และความสนใจของผู้เป็นเจ้าของ ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ